วันอังคารที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2557

ของดี.....เมืองรถม้า

 ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย


       ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย ตั้งอยู่ที่บ้านทุ่งเกวียน ต.เวียงตาล อยู่ในความดูแลของฝ่ายอุตสาหกรรมป่าไม้ภาคเหนือ  องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ (ออป.) แต่เดิม ออป. เป็นศูนย์ฝึกลูกช้างซึ่งเป็นแห่งแรกและแห่งเดียวในโลก โดยเริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ พ.ศ. 2512 เป็นสถานที่เลี้ยงและฝึกลูกช้างเพื่อให้เชื่อฟังคำสั่งและมีความชำนาญในการทำไม้ขณะที่แม่ช้างไปทำงานในป่า และเนื่องจากมีนโยบายปิดป่าซึ่งทำให้ช้างต้องว่างงาน ศูนย์ฝึกลูกช้างจึงถูกปรับมาเป็นสถานที่ดูแลช้างแก่และเจ็บป่วย และที่นี่ยังเป็นสถานที่ตั้งของโรงพยาบาลช้างด้วย ออป.จึงได้ก่อตั้งศูนย์อนุรักษ์ช้างไทยขึ้นเมื่อเดือนมกราคม พ.ศ. 2535 และจัดกิจกรรมเพื่อการท่องเที่ยว ได้แก่
 
       การแสดงของช้าง ซึ่งยังคงอนุรักษ์ศิลปะการทำไม้ซึ่งใช้ช้างเป็นพาหนะ และแรงงานที่สำคัญ ในการชักลากไม้ที่ได้จัดแสดงให้นักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและต่างประเทศได้ชม เวลาในการแสดง
       วันจันทร์ - ศุกร์ มีการแสดง 2 รอบ ในเวลา 10.00 น . และ 11.00 น .
       วันเสาร์ - อาทิตย์ และวันหยุดต่างๆ จะเพิ่มรอบการแสดงในเวลา 13.30 น .
       นั่งช้างรอบบริเวณซึ่งเป็นสวนป่า ธรรมชาติยังมีสิ่งดีๆ ที่คอยให้กำลังใจกับเราทุกเมื่อ บางครั้งเราอาจจะสับสนวุ่นวาย เครียดหนักกับการทำงานทั้งวัน ทั้งสัปดาห์ลองหลบความวุ้นวายเหล่านั้น ไปท่องเที่ยวกับธรรมชาติ โดยเฉาะกับการขี่ช้างชมธรรมชาติ ท่านจะรู้สึกถึงความแปลกใหม่ในชีวิต เป็นรางวัลจากความเหน็ดเหนื่อยที่จะทำให้ท่านลืมงานที่ออฟฟิคไปอีกหลายวันเชียวแหละ การนั่งช้างให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 8.00 - 15.30 น .
       การแสดงของลูกช้างทุกวันวันละ 3 รอบคือ 09.30 น., 11.00 น. และ14.00 น.
       ช้างแท็กซี่ หรือบริการนั่งช้างชมธรรมชาติรอบๆ ศูนย์ฯ มีทุกวัน เวลา 08.00-15.30 น
        โฮมสเตย์ (Homestay) ซึ่งนักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสบรรยากาศธรรมชาติ เรียนรู้วิถีชีวิตที่ผูกพันระหว่างช้างกับคนเลี้ยงช้างอย่างใกล้ชิด บริการอาหารเครื่องดื่มและร้านขายของที่ระลึก ค่าเข้าชมสำหรับ ชาวไทยและชาวต่างประเทศ ผู้ใหญ่ 50 บาท เด็ก 20 บาท นักท่องเที่ยวสามารถเลือกใช้บริการได้หลายเส้นทาง สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
โทร. 054-247871-6

       ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทยได้รับรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยว (Tourism Awards) ประเภทรางวัลดีเด่นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ พ.ศ.2541 ปัจจุบันศูนย์ฯมีโครงการ โรงเรียนฝึกควาญช้าง เพื่อฝึกควาญหรือผู้ที่ประสงค์จะเป็นควาญให้สามารถดูแลช้างได้อย่างถูกต้อง มีชาวต่างชาติให้ความสนใจมาสมัครเป็นนักเรียนหลายคน นอกจากเรื่องท่องเที่ยวแล้วยังมีสิ่งที่น่าสนใจ คือ พลังงานที่ใช้ภายในศูนย์ฯ มาจากพลังงานทดแทนในโครงการเฉลิมพระเกียรติฯ มีก๊าซชีวภาพจากมูลช้างใช้ในการหุงต้ม และกระแสไฟฟ้าผลิตจากเซลล์แสงอาทิตย์
6
       สวนป่าทุ่งเกวียน เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของชาวลำปาง มีป่าสนเมืองหนาวและพันธุ์ไม้นานาชนิด ทั้งไม้ดอก ไม้ใบที่มีสีสันสวยงาม อีกทั้งไม้จำพวกตะบองเพชร และปาล์ม ตลอดจนพืชสมุนไพรต่างๆ นักท่องเที่ยวสามารถแค้มปิ้งที่นี่ได้ ช่วงที่สวยที่สุดเหมาะแก่การพักแรมคือเดือนพฤศจิกายน ซึ่งเป็นช่วงที่ดอกบัวตองกำลังบาน เนื่องจากจังหวัดลำปางมีพื้นที่เป็นแอ่งกะทะจึงมีอากาศที่ร้อนกว่าแม่ฮ่องสอน ดอกบัวตองที่ลำปางจึงบานเร็วกว่าที่ดอยแม่อูคอประมาณ 15 วัน  ประมาณเดือนตุลาคมมีการจัดกิจกรรมทุ่งเกวียนเมาเท่นไบค์ และเดือนธันวาคมของทุกปี จะมีการจัดงาน “ดอกไม้บานวันพบช้าง”


ที่มาของข้อมูล : http://www.yourhealthyguide.com/travel/tn-thailandelephant.htm 













วันอังคารที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2557

คริสต์มาส




คริสต์มาส (อังกฤษChristmasอังกฤษเก่าCrīstesmæsse, หมายถึง "พิธีมิสซาของพระคริสต์") หรือ วันสมโภชพระคริสตสมภพ(อังกฤษFeast of the Nativity) จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีเพื่อเฉลิมฉลองการประสูติของพระเยซู เป็นวันหยุดทางศาสนาและวัฒนธรรม ประชากรหลายพันล้านคนทั่วโลกจัดการเฉลิมฉลองในวันที่ 25 ธันวาคม วันดังกล่าวเน้นปีพิธีกรรมของคริสต์ศาสนิกชนเป็นสำคัญ วันคริสต์มาสเป็นวันปิดเทศกาลเตรียมการรับเสด็จ (Advent) และวันเริ่มต้นเทศกาลพระคริสตสมภพ (Christmastide) สิบสองวัน คริสต์มาสเป็นวันหยุดราชการในหลายประเทศทั่วโลก และมีผู้ที่ไม่ใช่คริสต์ศาสนิกชนหันมาเฉลิมฉลองกันมากขึ้น และเป็นส่วนสำคัญในคริสต์มาสและฤดูวันหยุด
วันที่พระเยซูประสูติจริง ๆ นั้นไม่ทราบแน่ชัด แต่นักประวัติศาสตร์สมัยใหม่คะเนไว้ว่าราว 2 ปีก่อน ค.ศ. และ ค.ศ. 7 ในช่วงต้นถึงกลางคริสต์ศตวรรษที่ 4 ศาสนาคริสต์ตะวันตกกำหนดวันคริสต์มาสตรงกับวันที่ 25 ธันวาคม ซึ่งต่อมาศาสนาคริสต์ตะวันออกได้รับวันดังกล่าวไปด้วย มีทฤษฎีอธิบายว่า เหตุผลที่เลือกวันที่ 25 ธันวาคมเป็นวันเฉลิมฉลองคริสตสมภพนั้นเพราะเป็นเวลาเก้าเดือนพอดีหลังคริสต์ศาสนิกชนสมัยแรกเฉลิมฉลองวันแม่พระรับสาร หรือตรงกับวันเหมายันของโรมัน หรือเทศกาลฤดูหนาวเพเกินโบราณเพื่อยุติการเฉลิมฉลองเหล่านี้และแทนที่ด้วยการฉลองของคริสต์ศาสนิกชน
วันการเฉลิมฉลองในศาสนาคริสต์ตะวันออกแต่เดิม คือ วันที่ 6 มกราคม โดยเชื่อมโยงกับวันสมโภชพระคริสต์แสดงองค์ ในปัจจุบัน วันดังกล่าวยังเป็นวันเฉลิมฉลองสำหรับคริสตจักรอาร์มีเนียอะโพสโตลิกและในประเทศอาร์มีเนียซึ่งเป็นวันหยุดราชการ จนถึง ค.ศ. 2011 ระหว่างปฏิทินเกรโกเรียนสมัยใหม่และปฏิทินจูเลียนที่เก่ากว่า มีวันคลาดเคลื่อนกันอยู่ 13 วัน ผู้ที่ยังใช้ปฏิทินจูเลียนหรือเทียบเท่าต่อไปจึงเฉลิมฉลองวันที่ 25 ธันวาคมและ 6 มกราคมที่ประชากรโลกส่วนใหญ่เฉลิมฉลอง ในวันที่ 7 มกราคมและ 19 มกราคมแทน ด้วยเหตุนี้ เอธิโอเปีย รัสเซียยูเครน มาเซโดเนียและมอลโดวาจึงเฉลิมฉลองคริสต์มาส ทั้งที่เป็นวันสมโภชของคริสต์ศาสนิกชนและที่เป็นวันหยุดราชการ ตามในปฏิทินเกรโกเรียนคือ วันที่ 7 มกราคม
ประเพณีการเฉลิมฉลองอันเป็นที่นิยมที่เหมือนกันในหลายประเทศมีการผสมผสานแนวคิดและกำเนิดก่อนศาสนาคริสต์ สมัยศาสนาคริสต์ และฆราวาส ประเพณีสมัยใหม่ที่ได้รับความนิยมในวันดังกล่าวมีการให้ของขวัญ เพลงคริสต์มาสและเพลงเทศกาล การแลกเปลี่ยนการ์ดคริสต์มาส การตกแต่งโบสถ์ มื้อพิเศษ และการจัดแสดงการประดับตกแต่งหลายอย่าง รวมทั้งต้นคริสต์มาส แสงไฟ ฉากการประสูติของพระเยซู มาลัย พวงหรีด มิสเซิลโทและฮอลลี นอกเหนือจากนั้น บุคคลที่เกี่ยวข้องกันอย่างใกล้ชิดและแทนกันได้บ่อยครั้งหลายคน เช่น ซานตาคลอสฟาเธอร์คริสต์มาส นักบุญนิโคลัส และคริสต์คินด์ เกี่ยวข้องกับการให้ของขวัญแก่เด็กในเทศกาลคริสต์มาส และต่างมีประเพณีและตำนานเป็นของตนเอง เพราะการให้ของขวัญและอีกหลายส่วนของเทศกาลคริสต์มาสเกี่ยวข้องกับกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่เพิ่มสูงขึ้นทั้งในบรรดาคริสต์ศาสนิกชนและผู้ที่มิใช่ วันคริสต์มาสจึงเป็นเหตุสำคัญและช่วงลดราคาหลักสำหรับผู้ค้าปลีกและธุรกิจ ผลกระทบทางเศรษฐกิจของคริสต์มาสเป็นปัจจัยซึ่งเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอดหลายศตวรรษที่ผ่านมาในหลายภูมิภาคทั่วโลก 
ขอขอบคุณ:
th.wikipedia.org/wiki/คริสต์มาส


วันอังคารที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

เทียนหอมสมุนไพร


เทียนหอม หมายถึงผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการนำพาราฟินและไขผึ้งมาหลอมละลายรวมกัน อาจเติมสีและเติมน้ำมันหอมระเหยนำไปปั้นด้วยมือหรือหล่อแบบขึ้นรูปหรือกดจากพิมพ์ให้มีรูปทรงตามต้องการอาจประกอบด้วยวัสดุอื่นเพื่อให้เกิดความสวยงามเช่นดอกไม้แห้งมีไส้เทียนสำหรับจุดไฟและมีกลิ่นหอมอง
น้ำมันหอมระเหยเทียนหอมสมุนไพรเน้นการใช้ประโยชน์และความสวย
งามโดยมีกลิ่นหอมแบบสวยและอาจจะใช้ไล่ยุงหรือแมลงได้อีกด้วย
ทั้งนี้แล้วเทียนหอมสมุนไพรยังมีการทำเป็นธุรกิจมีการลงทุนที่น้อย
กว่าแต่ได้กำไรเยอะเนื่องจากเป็นงานใช้ฝีมือทำให้ผู้คนสนใจใน
ตัวสินค้าทำง่าย และตกแต่งง่าย โดยใช้ต้นทุนต



วัสดุที่ใช้ในการผลิตเทียนหอม 
ด้แก่ พาราฟิน โพลีเอสเตอร์ น้ำหอม ไส้เทียน และสีเคลือบดอก
๑. พาราฟิน ๑ กิโลกรัม
๒. บีแวกซ์ ๑ ขีด
๓. เทียนเหนียว ๑ ขีด
๔. สีเทียน หรือ สีน้ำมันผง
๕. ไส้เทียน
๖. หัวน้ำหอมกลิ่นที่ชอบ ๑๕ ซีซี (หัวน้ำหอมกลิ่นตะไคร้หอมสำหรับทำเทียนกันยุง)
๗. พิมพ์รูปต่าง ๆ



ขั้นตอนการผลิตเทียนหอม
            นำพาราฟินใส่ภาชนะตั้งไฟละลายจากนั้นใส่บีแว็กซ์และเทียนลงไปพอละลายเข้ากันใส่สีเทียนหรือสีน้ำมันผงให้สีอ่อนเข้มตามต้องการ ตักหยอดใส่พิมพ์เมื่อเทียนเริ่มแข็งตัว ใส่ไส้เทียนที่เตรียมไว้



วิธีใส่เทียนให้แข็ง
            ทำได้โดยนำฝ้ายดิบสำหรับทำไส้เทียน จุ่มลงในพาราฟินที่ต้มละลายแล้ว จากนั้นดึงไส้เทียนให้ตึงพอแห้ง
จะได้ไส้เทียนเป็นเส้นตรง
จากนั้นตัดความยาว
ตามต้องการ
                                
                                
ขอบคุณ



ความหมายของการออกแบบ








ความหมายของการออกแบบ 
ก่อนอื่นเราควรจะทราบความหมายของการออกแบบก่อนว่า การออกแบบหมายถึงอะไร ซึ่งได้มีผู้ให้คำนิยามคำว่า การออกแบบ ต่างๆกันดังนี้
การออกแบบ หมายถึง การรู้จักวางแผนจัดตั้งขั้นตอน และรู้จักเลือกใช้วัสดุวิธีการเพื่อทำตามที่ต้องการนั้น โดยให้สอดคล้องกับลักษณะรูปแบบและคุณสมบัติของวัสดุแต่ละชนิดตามความคิดสร้างสรรค์ และการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ขึ้นมา เช่น เราจะทำเก้าอี้นั่งซักตัวจะต้องวางแผนไว้เป็นขั้นตอนโดยต้องเริ่มเลือกวัสดุที่จะใช้ทำเก้าอี้นั้นจะใช้วัสดุอะไรที่เหมาะสม วิธีการต่อยึดนั้นควรใช้กาว ตะปูนอต หรือใช้ข้อต่อแบบใด คำนวณสัดส่วนการใช้งานให้เหมาะสม ความแข็งแรงของเก้าอี้นั่งมากน้อยเพียงใด สีสันควรใช้สีอะไรจึงจะสวยงาม และทนทานกับการใช้งาน เป็นต้น 
การออกแบบ หมายถึง การปรับปรุงแบบ ผลงานหรือสิ่งต่างๆ ที่มีอยู่แล้วให้เหมาะสมมีความแปลกใหม่ขึ้น เช่น เก้าอี้เราทำขึ้นมาใช้ซึ่งเมื่อใช้ไปนานๆก็เกิดความเบื่อหน่ายในรูปทรง เราก็จัดการปรับปรุงให้เป็น รูปงแบบใหม่ให้สวยกว่าเดิม ทั้งความเหมาะสม ความสะดวกสบายในการใช้งานยังคงเหมือนเดิม หรือดีกว่าเดิม เป็นต้น
การออกแบบ หมายถึง การรวบรวมหรือการจัดองค์ประกอบทั้งที่เป็น 2 มิติ และ 3 มิติ เข้าด้วยกันอย่างมีหลักเกณฑ์ การนำองค์ประกอบของการออกแบบมาจัดรวมกันนั้น ผู้ออกแบบจะต้องคำนึงถึงประโยชน์ใช้สอยและความสวยงาม อันเป็นคุณลักษณะสำคัญของการออกแบบ เป็นศิลปะของมนุษย์เนื่องจากเป็นการสร้างค่านิยมทางความงาม และสนองคุณประโยชน์ทางกายภาพให้แก่มนุษย์ 
การออกแบบ หมายถึง กระบวนการที่สนองความต้องการในสิ่งใหม่ๆของมนุษย์ซึ่งส่วนใหญ่เพื่อให้ชีวิตอยู่รอด และมีความสะดวกสบายมากขึ้น 
ในการออกแบบนี้ถือว่าเป็นวิชาปฏิบัติเกี่ยวกับการวิเคราะห์ การสร้างสรรค์และพัฒนาผลิตภัณฑ์ เพื่อการผลิตที่เหมือนๆกันเป็นจำนวนมากให้ได้รูปร่างที่ถูกต้องแน่นอนก่อนที่จะลงทุนในการผลิต นอกจากนี้เพื่อจัดวัสดุอุปกรณ์และเครื่องมือเครื่องจักรที่ใช้ในการผลิตสามารถผลิตผลิตภัณฑ์ได้ในราคาพอสมควรที่ผู้ซื้อจะซื้อได้
การพัฒนา หมายถึงอะไร ..... คำว่า “พัฒนา”มีผู้ใช้ศัพท์ทางภาษาอังกฤษว่า Improvement หมายถึงการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงบ้าง แต่ถ้าใช้คำว่า Development หมายถึงการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงให้ดีขึ้น สำหรับคำหลังดูเหมือนจะตรงกับภาษาไทยมากกว่า 
ผลิตภัณฑ์ หมายถึงอะไร ...สิ่งที่มนุษย์ค้นคว้าออกแบบ ประดิษฐ์ขึ้นเพื่ออำนวยความสะดวกสบายในการดำรงชีพ 
การพัฒนาผลิตภัณฑ์ หมายถึง กระบวนการค้นคว้า คิดออกแบบ แก้ไขและปรับปรุงเพื่อให้ได้มาซึ่งผลิตภัณฑ์ที่ดีขึ้น 
อุตสาหกรรม หมายถึง กระบวนการผลิตสิ่งของเป็นจำนวนมากๆ โดยใช้กำลังในการผลิตและกำลังคนน้อยๆ และสามารถควบคุมคุณภาพได้ 
การออกแบบผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม หมายถึง การออกแบบผลิตภัณฑ์ที่ผลิตขึ้นด้วยกรรมวิธีทางด้านอุตสาหกรรม และสิ่งแวดล้อมต่างๆที่เกี่ยวกับอุตสาหกรรม โดยมีการวิเคราะห์หาข้อมูลต่างๆเกี่ยวกับหน้าที่ใช้สอยของผลิตภัณฑ์ ข้อมูลเกี่ยวกับตลาดแล้วนำมาปรับปรุงผลิตภัณฑ์เพื่อผลิตเป็นจำนวนมากๆให้อยู่ในความนิยมของตลาดในราคาพอสมควร
นักออกแบบ คือ ผู้ที่พยายามค้นหาสร้างสรรค์สิ่งใหม่ หาวิธีแก้ไขหรือคำตอบใหม่ๆสำหรับปัญหาต่างๆ
นักออกแบบอุตสาหกรรม คือ ผู้ที่เรียนรู้และฝึกฝนทั้งทางด้านวิทยาการที่ก้าวหน้าต่างๆ กรรมวิธีการผลิต การเลือกใช้วัสดุและหลักการในการออกแบบโดยกามีความสามารถเข้าใจการวิเคราะห์ปัญหา การคิดออกแบบสร้างสรรค์ และแก้ไขปรับปรุงผลิตภัณฑ์ โดยกรรมวิธีด้านอุตสาหกรรม


ขอบคุณ

http://blog.eduzones.com/nunloly/32496

มารู้จัก google sketchUp กันเถอะ

                                                                                                                                                                                                                                               วันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับโปรแกรม Google SketchUp  บุคคลที่กำลังมองหาโปรแกรมที่ช่วยในการสร้าง Model สักโปรแกรม
 เชื่อว่าโปรแกรม Google SketchUp มีประโยชน์และประสิทธิภาพ เพียงพอที่จะสร้าง Model หรือชิ้นงานแบบง่ายๆในสไตล์ของคุณ
 แล้วคำถามที่ผลุดขึ้นมาในใจ ชวนให้เราสงสัยและอยากค้นหา ว่า Google SketchUp คืออะไร ทำงานอย่างไร ใช้งานอย่างไร เรามีคำตอบให้คุณ
           Google SketchUp เป็นโปรแกรมสำหรับสร้างแบบจำลอง 3D (Three - Dimensional) ที่มีความง่ายต่อการใช้งาน และเป็นที่นิยมอย่างกว้างขวาง โดยส่วนใหญ่จะถูกนำมาใช้ในงานออกแบบเชิงสถาปัตยกรรม งานออกแบบภายในและภายนอก การออกแบบกลไกลการทำงานของเครื่องจักร เฟอร์นิเจอร์ ภูมิประเทศ ผลิตภัณฑ์ รวมไปถึงงานออกแบบฉาก อาคาร และสิ่งก่อสร้างในเกม หรือจะเป็นกมรจัดฉากทำ Story Boards ในงานภาพยนต์หรือละครโทรทัศน์ก็สามารถทำได้
          นอกจากนี้ยังทำงานร่วมกับปลั๊กอิน (Plugin) ต่างๆที่ถูกพัฒนาเพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของ Google SketchUp ให้สูงขึ้น ไม่ว่าจะเป็นพลั๊กอินที่ช่วยให้การสร้างรูปทรงต่างๆ สามารถทำได้ง่ายขึ้น ไปจนถึงปลั๊กอินที่ช่วยในการจัดแสงเงาให้ดูสมจริงอย่างเช่น V-Ray หรือ Podium
    


ตั้งค่าการใช้งาน Google SketchUp 

      ก่อนจะเริ่มการใช้งาน Google SketchUp เราควรที่จะรู้จักกับ Interface ของ Google SketchUp เมื่อเข้าสูโปรแกรมจะพบกับหน้าต่างออกแบบละส่วนของแถบเครื่องมือต่างๆ แยกเป็นส่วนๆ เพื่อให้ง่ายต่อการใช้งานโปรแกรม ซึ่งส่วนต่างๆเราจะสามารถตั้งค่าต่างๆก่อนเริ่มใช้งานโปรแกรม เพื่อให้เกิดความสะดวกในการใช้เครื่องมือต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการตั้งค่ามาตราส่วนหน่วยวัด การตั้งค่าคีย์ลัด รวมไปถึงพื้นที่การทำงาน
  • การเลือกเทมเพลตและการสร้างเทมเพลตใหม่
เริ่มต้นเมื่อเข้าเปิดโปรแกรม Google SketchUp ครั้งแรกโปรแกรมจะให้เราเลือก Template และมาตราส่วนหน่วยวัดที่ใช้ และเราควรที่จะเลือก Template ให้เหมาะสมกับการใช้งาน ซึ่งใน Google SketchUp Pro 8.0 จะมี Template ให้เลือกประมาณ 14 Template แต่ละตัวมีความแตกต่างกัน


  • สร้าง Template Google SketchUp ตามสไตล์ของตัวเอง
หากเราต้องการสร้าง Template ตามที่เราต้องการ สามารถกำหนดได้เองตามขั้นตอนต่อไปนี้
1) ไปที่เมนู Windows ---> Styles 

2) เลือก List รายการสไตล์ที่ต้องการ

3) คลิกเลือก โมเดลที่เราต้องการและเราสามารถกำหนดมาตราส่วนและหน่วยวัดของ Google SketchUp โดย เลือกเมนู Windows ---> Model Info


ขั้นตอนที่ 1 เลือก Unit
ขั้นตอนที่ 2 เลือก Format เลือก ประเภท Decimal , Precision เลือกตำแหน่งหน่วย 0.0000 
ขั้นตอนที่ 3 เลือก ปกติจะเลือกเป็นประเภท Centimeters 
4) เมื่อเลือกรายละเอียดเรียบร้อยแล้ว หากต้องการ Save Template ให้ไปที่ เมนู File --> SaveAs Template... จะปรากฏหน้าต่างดังภาพ

กดปุ่ม Save เพื่อทำการ Save Template เป็นอันเสร็จสิ้นการสร้าง Template
เมื่อเราเปิดโปรแกรม Google SketchUp เราสามารถเรียกใช้ Template ที่เราบันทึกไว้ ดังภาพ

  • การตั้งค่ามาตราส่วนและหน่วยวัด Google SketchUp
ในการสร้างและออกแบบโมเดลใน Google SketchUp เราสามารถกำหนดมาตราส่วนและหน่วยวัดได้ดั้งนี้
ไปที่ เมนู Windows ---> Model Info

   ส่วนที่ 1 เลือก Unit Length Unit
   ส่วนที่ 2 เลือก ประเภทหน่วยวัด ซึ่งส่วนใหญ่ที่ใช้กันในการออกแบบโมเดลพื้นฐานจะใช้เป็น Decimal และเลือก Precision เป็น 0.0000 
   ส่วนที่ 3 เลือกเป็น Centimeters ซึ่งเหมาะสำหรับการออกแบบโมเดลพื้นฐาน Angle Units ใช้ในการกำหนดหน่วยย่อยของหน่วยวัดมุม และกำหนด Snapping ของมุมที่กำหนด





แถบเครื่องมือ Google SketchUp 

  • การปรับแต่ง Toolbar Google SketchUp

เมื่อเข้าสู่โปรแกรม Google SketchUp จะปรากฏแถบเครื่องมือ ชุด Getting Started เป็นเครื่องมือเริ่มต้นของ Google SketchUp ดังภาพ
 



  • การเคลื่อนย้ายตำแหน่งของ Toolbar 
เราสามารถเคลื่อนย้ายตำแหน่งของเครื่องมือได้มีอิสระ ไม่ว่าจะเป็นด้านข้าง ด้านบนและด้านล่าง หรือวางในตำแหน่งพื้นที่การสร้างโมเดลได้ โดยคลิกที่ขอบของแถบเครื่องมือแล้วลากวางในตำแหน่งที่เราต้องการ ทั้งนี้ยังสามารถปรับขนาดของแถบเครื่องมือได้โดยการลากตรงขอบด้านบนของแถบ Toorbar
 
  • การเพิ่มแถบเครื่องมือ

แถบเครื่องมือของ Google sketchUp สามารถเพิ่มเติมหรือเรียกใช้ได้ตามความต้องการของผู้ใช้ เพื่อให้เกิดความรวดเร็วและสามารถเรียกใช้เครื่องมือได้อย่างสะดวก โดยเราสามารถเรียกใช้แถบเครื่องมือได้ดังนี้
        ไปที่ เมนู View ----> Toolbar ----> แล้วคลิกเลือกเมนูที่ต้องการ ในตัวอย่างจะเลือก Toolbar ของ Camera จะได้ผลดังภาพ

 

  • การบันทึกตำแหน่งชุดเครื่องมือ
เมื่อเราเลือกวางตำแหน่งของชุดเครื่องมือตามที่เราต้องการแล้ว เราสามารถบันทึกตำแหน่งชุดเครื่องมือได้โดย ไปที่ เมนู View ---> Toolbar--->Save Toolbar Positions ดังภาพ

เมื่อเราขยับชุดเครื่องมือเพื่อทำงาน แล้วต้องการให้เครื่องมือย้ายกลับไปตำแหน่งที่เรา Save ให้เราไปที่ เมนู View ---> Toolbar ---> Restore Toolbar Positions ดังภาพ

ภาพก่อน Restore Toolbar Positions
ภาพหลัง Restore Toolbar Positions 
หลังจากใช้คำสั่ง Restore Toolbar Positions เครื่องมือจะกลับคืนตำแหน่งที่เราทำการ Save Positions ไว้






การควบคุมมุมมอง Google SketchUp

การควบคุมมุมมองด้วยเม้าส์และคีย์บอร์ด

         เพื่อช่วยให้การทำงานมีความสะดวก และรวดเร็ว เรายังสามารถที่จะควบคุมมุมมองในขณะทำงานด้วยเครื่องมือต่างๆได้ด้วยการใช้ เม้าส์ร่วมกับคีย์บอร์ด โดยมีรูปแบบการใช้งานดังนี้



การปรับหมุนมุมมอง       คลิกที่ลูกกลิ้งของเม้าส์ เครื่องมือจะถูกเปลี่ยนเป็นเครื่องมือ Orbit ชั่วคราว
การเลื่อนมุมมอง            คลิกที่ลูกกลิ้งของเม้าส์พร้อมกดคีย์ Shift เครื่องมือจะถูกเปลี่ยนเป็นเครื่องมือ    
                                   Pan ชั่วคราว
การย่อ / ขยาย              หมุนลูกกลิ้งไปข้างหน้าจะเป็นการขยาย หมุนมาด้านหลังจะเป็นการย่อ

         ในขณะที่เลือกเครื่องมือ Orbit, Pan และ Zoom สามารถที่จะคลิกเม้าส์ปุ่มขวาเพื่อเรียกแสดงเมนูคำสั่ง สำหรับการควบคุมมุมมองได้อีกด้วย

Tip : ในขณะที่ใช้เครื่องมือ Orbit, Pan, Look, Around, Walk หรือ Zoom การกำหนดปุ่ม ESC หรือ คลิกขวาเลือกคำสั่ง Exit เครื่องมือจะถูกเปลี่ยนไปเป็นเครื่องมือก่อนหน้าที่ถูกเลือกใช้งาน





หมายเหตุ : ในกรณีที่ใช้เครื่องมือใดๆอยู่ แล้วทำการเปลี่ยนเครื่องมือเป็น Orbit หรือ Pan ชั่วคราว ซึ่งขณะนั้นจะมีการคลิกเม้าส์ปุ่มกลางอยู่ก็ให้คลิกเม้าส์ปุ่มขวาเพื่อเรียก แสดงเมนูได้ โดยจะต้องไม่ปล่อยเม้าส์ปุ่มกลาง




แกนอ้างอิง Google SketchUp

การอ้างอิงทิศทางด้วยแกนอ้างอิง (Axes)
          การวาดเส้นใน Google SketchUp จะมีการอ้างอิงทิศทางตามแกนอ้างอิง (Axes) ทั้ง แกนเพื่อให้การสร้างเส้นในทิศทางต่างๆ มีความถูกต้องและแม่นยำ โดยถ้าวาดเส้นขนานไปตามแกน เส้นที่กำลังวาดอยู่จะแสดงเป็นสีแดง หรือถ้าวาดเส้นขนานไป ตามแกน เส้นที่กำลังวาดอยู่จะแสดงเป็นสีเขียว


 แกน X

 แกน Y

การย้ายตำแหน่งแกนอ้างอิ
          เราสามารถที่จะย้ายตำแหน่งของแกนอ้างอิงและปรับหมุนไปในทิศทางต่างๆ ได้เพื่อใช้
อ้างอิงการสร้างเส้นหรือรูปทรงในทิศทางที่ต้องการ สามารถทำได้โดยเลือกไอคอน    หรือเลือกจากเมนู Tools --- > Axes หรือจะใช้วิธีคลิกขวาที่แกนอ้างอิงแล้วเลือกคำสั่ง Place ก็ได้เช่นกัน



          นอกจากนี้เรายังสามารถย้ายแกนอ้างอิงไปยังตำแหน่งใดๆ โดยการกำหนดตำแหน่งและทิศทางที่แน่นอนลงไป สามารถทำได้โดยคลิกขวาที่แกนอ้างอิงแล้วเลือกคำสั่ง Move จะปรากฏหน้าต่าง Move Sketching Context ขึ้นมา โดยจะมีตัวเลือกให้กำหนดค่าทั้งในส่วนของการกำหนดตำแหน่งและการกำหนดองศาของแกนทั้ง แกน

การอ้างอิงตำแหน่งด้วย Inference
          Inference เป็นอีกความสามารถของ Google SketchUp ที่จะช่วยให้การสร้างชิ้นงานในตำแหน่งและทิศทางต่างๆ สามารถกระทำได้ง่ายขึ้น โดย Inference จะแสดงอยู่ในรูปแบบของสัญลักษณ์ต่างๆ เช่น จุดสี เส้นทึบ เส้นประสีต่างๆ พร้อมแสดงข้อความที่จะช่วยให้เรารู้ว่าขณะนั้นกำลังทำงานอยู่ที่ตำแหน่งไหน และอ้างอิงอยู่กับแกนใด
            Inference เป็นแบบจุด (Point Inference) จะปรากฏให้เห็นตามแนวเส้นและพื้นผิวของชิ้นงานพร้อมข้อความกำกับ โดยรูปแบบของจุด สี และข้อความจะแสดงผลแตกต่างกันออกไป

Inference แบบเส้น (Line Inference)
          จะปรากฏให้เห็นขณะมีการวาดเส้นไปยังทิศทางต่างๆ ที่อ้างอิงจากแกนอ้างอิงหรือเส้นตรงบนชิ้นงาน โดย Inference แบบเส้นจะแสดงให้เห็นด้วยเส้นที่มีลักษณะแตกต่างกันออกไป พร้อมแสดงข้อความกำกับ โดยรูปแบบของเส้น สี และข้อความจะแสดงผลแตกต่างกันออกไป



 Inference บนพื้นระนาบ (Planar Inference)
          เป็น Inference ที่จะช่วยให้การสร้างเส้นหรือรูปทรงต่างๆ บนพื้นผิวระนาบได้ง่ายขึ้น ซึ่งจะหมายถึงการทำงานบนพื้นผิวที่มีความคลาดเอียงในทิศทางต่างๆ รวมไปถึงตำแหน่งที่เป็นพื้นดินบนพื้นผิวการทำงานด้วย


การแบ่งเส้นตรงออกเป็นส่วนๆ ด้วยคำสั่่ง Divide
          เรา สามารถแบ่งเส้นตรงออกเป็นส่วนๆที่เท่ากันได้โดยการคลิกขวาที่เส้นที่ต้องการ แบ่ง แล้วเลือกคำสั่ง Divide แล้วเลื่อนเม้าส์เพื่อกำหนดจำนวนการแบ่งเส้น หรือกำหนดในช่อง Segments ก็ได้เช่นกัน
ดังภาพ

องค์ประกอบของวัตถุใน Google SketchUp

องค์ประกอบของวัตถุใน Google SketchUp
          วัตถุหรือรูปทรงใน Google sketchUp  จะปรากฏไปด้วยเส้นและพื้นผิวเป็นหลัก โดยพื้นผิวจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อมีการบรรจบกันของเส้นตั้งแต่ เส้นขึ้นไป ดังนั้นเมื่อใดก็ตามที่เราวาดเส้นมาบรรจบกันในระนาบเดียวกันก็จะเกิดพื้นผิวขึ้นภายในขอบเขตของเส้นเหล่านั้น และในส่วนของพื้นผิวเองจะมีด้วยกันอยู่ ด้านคือ พื้นผิวด้านนอกและพื้นผิวด้านใน 









สร้างโมเดลบ้านแบบง่าย

สร้างชิ้นงานชิ้นแรกโมเดลบ้านแบบง่าย
             สำหรับใบความรู้นี้ เราจะมาทอลองสร้างงานแบบง่ายๆกัน โดยใช้เพียงเครื่องมือพื้นฐานและเวลาเพียงไม่นาน เราก็จะได้บ้าน หลัง จากนั้นก็ปรับพร๊อปประกอบฉาก เพื่ออุ่นเครื่องการทำงานและการใช้เครื่องมือใน Google SketchUp8 ก่อนที่จะได้ทำงานที่ประยุกต์ขึ้นมา
             บ้านที่เราจะสร้างเป็นบ้านเดี่ยว หลังคาทรงจั่ว และมีองค์ประกอบเพิ่มเติมเล็กน้อย เพื่อประกอบฉากให้สมบูรณ์และมีเรื่องราวมากขึ้น ดังนี้
             จากภาพ เราจะแบ่งขั้นตอนการทำงานออกเป็น ขั้นตอนดังนี้
             ขั้นตอนที่ สร้างตัวบ้าน
             ขั้นตอนที่ ใส่ประตูและหน้าต่าง
             ขั้นตอนที่ ใส่สีสันให้กับบ้าน
             ขั้นตอนที่ ตกแต่งเพิ่มองค์ประกอบให้บ้าน
             ขั้นตอนที่ จัดแสงเงาตามช่วงเวลา
 ขั้นตอนที่ สร้างตัวบ้าน
             ขั้นตอนนี้เราจะสร้างตัวบ้านเป็นรูปทรงสี่เหลี่ยม โดยจะมีส่วนประกอบหลัก ส่วนคือ
             ตัวบ้าน
             หลังคาบ้าน

             สร้างตัวบ้าน
             การสร้างตัวบ้านเป็นการการฝึกกำหนดขนาดและรูปทรงของโมเดล โดยมีขั้นตอนดังนี้
             1. การสร้างสี่เหลี่ยมผืนผ้าเป็นฐานของบ้าน โดยใช้ (Rectangle Tool)


                1.1 คลิกเมาส์เลือก (Rectangle Tool)                           ­
            1.2 คลิกเมาส์ลากเพื่อสร้างวัตถสี่เหลี่ยม  จะได้รูปสี่เหลี่ยมเป็นฐานของบ้า



                2. ใช้  (Push/Pull Tool) ดึงพื้นผิวของรูปสี่เหลี่ยมขึ้นมาเป็นตัวบ้าน
 


            2.1 คลิกเลือก (Push/Pull Tool)
            2.2 คลิกเมาส์บนพื้นผิวแล้วลากเมาส์ขึ้น            
            2.3 คลิกเมาส์อีกครั้ง เพื่อจบการดึงพื้นผิว เราจะได้ตัวบ้านเป็นรูปทรงกล่องสี่เหลี่ยม


             สร้างหลังคาบ้าน
             สำหรับ หลังคาบ้าน เราจะใช้การวาดเส้นเข้ามาช่วยเพิ่มส่วนประกอบของบ้าน โดยจะลากเส้นตรงบริเวณกึ่งกลางรูปทรงสี่เหลี่ยม แล้วดึงเส้นนั้นขึ้นมา ให้เป็นหลังคาทรงจั่ว ซึ่งมีขั้นตอนดังนี้
             1. ใช้    (Line Tool) สร้างเส้นตรงแบ่งครึ่งด้านบนของสี่เหลี่ยม โดยให้แบ่งตามความยาว
 

                  1.1 คลิกเลือก Line Tool
                  1.2 คลิกเมาส์ตำแหน่งตรงกลาง (สังเกตจุดสีฟ้าและมีคำว่า Midpoint) แสดงว่าตำแหน่งนั้นอยู่กึ่งกลางด้านกว้างของสี่เหลี่ยม
                  1.3 ลากเมาส์ไปยังด้านกว้างอีกด้านหนึ่งของสี่เหลี่ยมแล้วคลิกเมาส์ที่กึ่งกลางของด้านนั้นจะเกิดเป็นเส้นตรงตามแนวขึ้นมา
             2. ใช้   (Move Tool) คลิกเลือกเส้นจากขั้นตอนที่ แล้วดึงเส้นขึ้นไปตามแนวแกนสีน้ำเงิน
 

                     2.1 คลิกเมาส์เลือก Move Tool
                     2.2 คลิกเมาส์ที่เส้น

                     2.3 คลิกเมาส์ค้างไว้แล้วลากเมาส์ขึ้นตามแกนสีน้ำเงินจากนั้นคลิกเมาส์อีกครั้งเพื่อวาง


             3. ใช้   (Line Tool) อีกครั้งเพื่อสร้างเส้นรอบตัวบ้านทำเป็นขอบหลังคา 
 

                    3.1 คลิกเลือก  (Line Tool)
                    3.2 คลิกเมาส์บริเวณเส้นขอบของตัวบ้านจะปรากฏ แสดงว่าเราวางเมาส์บนเส้นขอบพอดี
                    3.3 คลิกเมาส์ที่ฝั่งตรงข้ามจุดในแนวยาวของตัวบ้านเพื่อสร้างเส้นรอบตัวบ้านเป็นขอบหลังคา
                    3.4 คลิกสร้างเส้นให้รอบตัวบ้านทั้งหมด
             4. ใช้ Push/Pull Tool ดึงด้านหน้าของหลังคาออกมาให้คลุมหน้าบ้าน

                   4.1 คลิกเลือก Push/Pull Tool
                   4.2 คลิกเมาส์บนพื้นผิวหลังคาด้านหน้า
                   4.3 ลากเมาส์ดึงพื้นผิวออกมาด้านหน้าเล็กน้อยแล้วคลิกเมาส์วางตำแหน่งพื้นผิว 

ขั้นตอนที่ ใส่ประตูและหน้าต่าง
            ขั้นตอนการใส่ประตูและหน้าต่าง โดยจะนำประตูและหน้าต่างมาจากโมเดลสำเร็จรูปใน Google SketchUp  ที่เตรียมไว้ให้เราเลือกใช้อยู่แล้ว โดยเรียกโมเดลนี้ว่า คอมโพเนนท์ Component


             1. เรียกโมเดลสำเร็จรูปขึ้นมาใช้งาน โดยเปิดไดอะล็อกบ๊อกซ์ Components ด้วยคำสั่ง Window ---> Components จากนั้นเลือกหมวดโมเดลเป็น Architecture ซึ่งเป็นหมวดเกี่ยวกับการสร้างงานสถาปัตย์


              2. โปรแกรมจะติดต่อกับ 3D Warehouse ให้เราเพื่อค้นหาโมเดลสำเร็จรูป ในที่นี้เราจะเลือกใช้งานประตูและหน้าต่าง ให้คลิกเลือกที่ DC Doors and Windows จากนั้นให้ปรับการแสดงชิ้นงานเป็นรูปแบบ Large Thumbnails เพื่อความสะดวกในการเลือก


                     2.1 คลิกเลือก Dc Doors and windows
                     2.2  คลิกปุ่ม   แล้วเลือก Large Thumbnailsจะแสดงตัวอย่างโมเดลเป็นไอคอนภาพ
               3. คลิ กเลือกรูปแบบประตูที่ต้องการแล้วนำไปวางที่บ้าน ประตูสำเร็จรูปจะติดปลายเมาส์เมื่อเราลากเมาส์ออกจากไดอะล็อกบ๊อกซ์ และถ้าเราต้องการวางประตูในตำแหน่งใด ก็ให้คลิกเมาส์ ครั้ง ดังภาพ

             
               4. คลิ กเลือกรูปแบบหน้าต่างที่ต้องการแล้วนำไปวางที่บ้าน หน้าต่างที่เลือกจะติดปลายเมาส์ไป เช่นเดียวกับประตู และถ้าเราต้องการวางหน้าต่างในตำแหน่งใด ก็ให้คลิกเมาส์ ครั้ง จากนั้นก็วางหน้าต่างได้ตามจำนวนที่เราต้องการ ในตัวอย่างวางไว้ บาน ดังภาพ


ขั้นตอนที่ ใส่สีสันให้กับตัวบ้าน

                 1. คลิกเลือก  (Paint Bucket Tool) จะปรากฏหน้าต่าง Materials ขึ้นมา


                2 .  เลือกหมวด Colors เพื่อใช้สีพื้นกับบ้าน

             3.  คลิกเลือกสีและคลิกเทสีให้กับลังคา

            4. คลิกเมาส์ซ้ำบริเวณพื้นผิวที่ต้องการใส่สี

            5. คลิกเลือกสีและคลิกเทสีให้ตัวบ้าน
            6. คลิกเมาส์ซ้ำบริเวณพื้นผิวที่ต้องการใส่สี จะได้โมเดล



           
                การสร้างโมเดลบ้านแบบง่ายก็มีเนื้อหาเพียงเท่านี้หวังว่าจะเป็นประโยชน์ สำหรับผู้ที่เริ่มฝึกทำโมเดล เพราะได้ใช้เครื่องมือแทบทุกตัวเลย 

ขอบคุณ